รายชื่อผู้เข้าชิง รู้จักออสการ์ ทายผลออสการ์ ของรางวัล
กำเนิดออสการ์

Oscarรางวัลออสการ์ ที่สุดของรางวัลที่ได้รับการยอมรับจากบุคคลในวงการภาพยนตร์ รางวัลออสการ์ได้รับการออกแบบโดย เซดริก กิบบอนด์ ซึ่งเป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์ของ MGM เป็นรูปอัศวินถือดาบ ยืนอยู่บนม้วนฟิล์ม 5 ซี่ เพื่อหมายถึง รางวัลดั้งเดิมที่จัดขึ้นใน 5 สาขา ได้แก่ นักแสดง ผู้เขียนบท ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และฝ่ายเทคนิค

เฟรเดริก โฮป ผู้ช่วยของกิบบอนด์ เป็นผู้สร้างฐานที่ทำจากหินอ่อนสีดำของเบลเยียม โดย จอร์จ สแตนลีย์ เป็นผู้ปั้น ซึ่งรูปปั้นแต่ละตัว รูปปั้นแต่ละตัวสูง 13 นิ้วครึ่ง และหนัก 8 ปอนด์ครึ่ง ทำมาจากอัลลอย บริทาเนียม ชุบด้วยทองแดง เงินนิเกิล และทองคำ 24 กะรัต

ไม่ปรากฏแน่ชัดว่ารางวัล อคาเดมี อวอร์ด ได้ชื่อเล่นว่า ออสการ์ ได้อย่างไร แต่เรื่องราวที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด คือ เรื่องของ มาร์การ์เร็ต เฮอร์ริกค์ พนักงานคนหนึ่งของสถาบันศิลปะภาพยนตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งภายหลังได้เป็นผู้อำนวยการระดับสูง ได้อุทานเมื่อแรกเห็นรางวัลนี้ว่ามีความคล้ายคลึงกับลุงของเธอที่ชื่อว่า ออสการ์

รางวัลออสการ์เริ่มต้นจากการก่อตั้งสถาบันศิลปะ ภาพยนตร์และวิทยาศาส ตร์ หรือ Academy of Motion Picture Arts and Sciences (AMPAS) ในปี 1927 จากการรวมตัวของ หลุยส์ บี.เมเยอร์, เออร์วิงค์ จี.ซัลเบิร์ก และ แฮร์รี่ ราฟร์ แห่ง MGM โจเซฟ เอ็ม.เช็งค์, ดักลาส แฟร์แบงค์, แมรี่ พิคฟอร์ด แห่ง UA และ แจ็คกับแฮร์รี่, เลสซี่ แอล.ลาสกีย์ และ ซีซิล บี.เดอร์มิลล์ แห่ง Warner Bros. นอกจากนี้ยังมีบุคคลในสาขาต่างๆ มาร่วมด้วย อาทิ เซดริก กิบบอนด์ ผู้กำกับศิลป์, คาเรย์ วิลสัน, เบส เมเรดิธ และ เจนนี่ แม็คฟอร์ดสัน ผู้เขียนบท, ราอูล วอช และ เฮนรี่ คิง ผู้กำกับ, ฮาโรลด์ ลอยด์ และ ริชาร์ด บาร์เธลเมส์ นักแสดง

วันที่ 5 พฤษภาคม 1927 ได้มีการเช่าสถานที่ทำงานที่ 6921 ฮอลลีวูด บูเลอวาร์ด เป็นที่ตั้งของสถาบันศิลปะภาพยนตร์และวิทยาศาสตร์ การบันทึกแห่งประวัติศาสตร์จึงได้เริ่มต้นขึ้น...


โกดัก เธียเตอร์

Kodakโกดัก เธียเตอร์ เป็นโรงละครในย่าน ฮอลลีวูด แอนด์ ไฮแลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนียใต้ เหมาะสำหรับใช้จัดงานแสดง ศิลปะ ละครเวที คอนเสิร์ต ประกาศผลรางวัล และโอกาสพิเศษต่างๆ ซึ่งได้เปิดใช้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2001 เป็นต้นมา

และที่นี่เอง คือ สถานที่ที่ใช้จัดงานประกาศผลรางวัลออสการ์ประจำปีนี้

โกดัก เธียเตอร์ เป็นโครงการที่ใช้เงิน 94 ล้านดอลลาร์ ออกแบบด้วยเทคโนโลยีระดับสูง ความจุ ของจำนวนที่นั่งและรูปแบบภายนอกของหอประชุมใหญ่ สามารถปรับใช้ได้ตามความต้องการ โดยสามารถปรับได้ตั้งแต่ 2,200 ที่นั่ง จนถึง 3,500 ที่นั่ง บนระเบียง 3 ระดับ ช่วยให้ผู้ชมไม่อยู่ห่างจากเวทีจนเกินไป

kodakภายในโรงละครได้รับการตกแต่งอย่างโดดเด่นด้วยโคมไฟระย้าทรงรี ประดับด้วยใบได้เงินขนาดเล็กพันกัน รูปแบบโรงละครเป็นแบบผสมผสานกัน ระหว่างแบบคลาสสิกและสมัยใหม่ คือ เป็นพื้นที่มีลวดลายทีได้รับอิทธิพลมาจากงานของไมเคิลแองเจโล กับลักษณะโรงละครที่ขยายเข้าออกได้

ตัวโรงละครได้รับการออกแบบ เพื่อดึงความสนใจไปยังการแสดงบนเวที และเพื่อให้เกิดความใกล้ชิด ระหว่างผู้ชมและผู้แสดงมากที่สุด ระเบียงจึงถูกออกแบบให้ยื่นออกมามากที่สุดเท่าที่จะทำได้

โกดัก เธียเตอร์ ประดับประดาด้วยความหรูหราที่ทำให้ส่องประกายอ่อนๆ ไปทั่วบริเวณโรงละคร ผ้า ม่าน 2 เฉดสี ได้แก่ ผ้าสีเลื่อมกับผ้าทอเป็นตาข่ายสีน้ำตาลบรอนซ์ที่ทอดยาวลงมาจากเวทีนอกม่าน นอกจากนี้กรอบโค้ง บนเวที และผนังบริเวณบันไดเวียนขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับห้องโถง 4 ระดับ ยังประดับด้วยลูกปัดแก้วนับพัน


เกร็ดจากออสการ์ครั้งที่ 83

  • "Toy Story 3" เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องที่ 3 ที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เรื่องก่อนหน้านี้ คือ "Beauty and the Beast" จากปี 1991 และ "Up" จากปี 2009

  • ตั้งแต่ปี 1951 ที่มีการกำหนดให้ชื่อผู้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็นชื่อผู้อำนวยการ สร้างแทนชื่อบริษัท ปีนี้เพิ่งเป็นปีที่ 2 ที่มีผู้อำนวยการสร้างได้เข้าชิงจากภาพยนตร์ 2 เรื่องพร้อมกัน นั่นคือ "สก็อตต์ รูดิน" (Scott Rudin) จาก "The Social Network" และ "True Grit" ก่อนหน้านี้ในปี 1974 "ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา" (Francis Ford Coppola) และ "เฟรด รูส" (Fred Roos) ได้เข้าชิงรางวัลดังกล่าวจาก "The Conversation" และ "The Godfather: Part II" แล้วเรื่องหลังก็คว้ารางวัลไปครองได้สำเร็จ

  • "โจเอล โคเอน" (Joel Coen) และ "อีธาน โคเอน" (Ethan Coen) ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก "True Grit" หลังจากเคยเข้าชิง 3 สาขาดังกล่าวจาก "No Country for Old Men" เมื่อปี 2007 ผู้ที่ทำสถิติได้เท่ากันคือ "ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา" (Francis Ford Coppola) "ปีเตอร์ แจ็กสัน" (Peter Jackson) "โอลิเวอร์ สโตน" (Oliver Stone) และ "สแตนลีย์ คูบริก" (Stanley Kubrick)

  • "ฮาเวียร์ บาร์เดม" (Javier Bardem) เข้าชิงสาขานักแสดงนำชายจากบทพูดภาษาสเปนใน "Biutiful" ก่อนหน้านี้มีผู้ชนะจากบทที่พูดภาษาอื่นนอกจากอังกฤษอยู่ 5 คน ได้แก่ "โซเฟีย ลอเรน" (Sofia Loren) จาก "Two Woman" เมื่อปี 1961 "โรเบิร์ต เดอ นีโร" (Robert De Niro) จาก "The Godfather: Part II" เมื่อปี 1974 "โรแบร์โต เบนิญี" (Roberto Benigni) จาก "Life Is Beautiful" เมื่อปี 1998 "เบนิซิโอ เดล โตโร" (Benicio Del Toro) จาก "Traffic" เมื่อปี 2000 และ "มาริยอง คอติยาร์" (Marion Cotillard) จาก "La Vie en Rose" เมื่อปี 2007

  • "อลัน เมนเคน" (Alan Menken) ได้เข้าชิงรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก "Country Strong" ถือเป็นการเข้าชิงในสาขานี้เป็นครั้งที่ 14 แล้วสำหรับเขา อลัน เคยชนะรางวัลนี้มาแล้ว 4 ครั้ง เท่ากับ "แซมมี คาห์น" (Sammy Cahn) "จอห์นนี เมอร์เซอร์" (Johnny Mercer) และ "เจมส์ แวน ฮิวเซน" (James Van Heusen) นอกจากนี้ อลัน ยังเคยเข้าชิงสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม 5 ครั้ง และเคยชนะมาแล้ว 4 ครั้ง

  • ปีนี้มีนักแสดงที่เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรก 8 คน ได้แก่ "เจสซี ไอเซนเบิร์ก" (Jesse Eisenberg) "เจมส์ ฟรังโก" (James Franco) "คริสเตียน เบล" (Christian Bale) "จอห์น ฮอว์กส์" (John Hawkes) "มาร์ก รัฟฟาโล" (Mark Ruffalo) "เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์" (Jennifer Lawrence) "แจกกี วีเวอร์" (Jacki Weaver) และ "เฮลี สเตนเฟลด์" (Hailee Steinfeld)

  • ในบรรดาผู้เข้าชิงรางวัลการแสดง มี 8 คนเคยเข้าชิงมาแล้วแต่ยังไม่เคยชนะ นั่นคือ "แอนเน็ตต์ เบนนิง" (Annette Bening) เคยเข้าชิง 3 ครั้ง "เอมี อดัมส์" (Amy Adams) เคยเข้าชิง 2 ครั้ง ที่เหลือเข้าชิงมาแล้วคนละ 1 ครั้ง ได้แก่ "โคลิน เฟิร์ธ" (Colin Firth) "เจเรมี เรนเนอร์" (Jeremy Renner) "นาตาลี พอร์ตแมน" (Natalie Portman) "มิเชล วิลเลียมส์" (Michelle Williams) "เฮลานา บอนแฮม คาร์เตอร์" (Helena Bonham Carter) และ "เมลิสซา ลีโอ" (Melissa Leo)

  • ในบรรดาผู้เข้าชิงรางวัลการแสดง มีผู้เคยชนะรางวัลมาแล้ว 4 คน คือ "ฮาเวียร์ บาร์เดม" (Javier Bardem) นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก "No Country for Old Men" เมื่อปี 2007 "เจฟฟรีย์ รัช" (Geoffrey Rush) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก "Shine" เมื่อปี 1996 "เจฟฟ์ บริดเจส" (Jeff Bridges) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเมื่อปีที่แล้วจาก "Crazy Heart" และ "นิโคล คิดแมน" (Nicole Kidman) นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก "The Hours" เมื่อปี 2002

  • นักแสดงที่ได้เข้าชิงทั้งปีนี้และปีที่แล้ว ได้แก่ "เจฟฟ์ บริดเจส" (Jeff Bridges) ผู้เข้าชิงสาขานักแสดงนำชายจาก "True Grit" "โคลิน เฟิร์ธ" (Colin Firth) ผู้เข้าชิงสาขานักแสดงนำชายจาก "The King's Speech" และ "เจเรมี เรนเนอร์" (Jeremy Renner) ผู้เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายจาก "The Town" เมื่อปีที่แล้ว ทั้ง 3 คนได้เข้าชิงสาขานักแสดงนำชายจาก "Crazy Heart" "A Single Man" และ "The Hurt Locker" ตามลำดับ

  • "เดวิด ฟินเชอร์" (David Fincher) จาก "The Social Network" เคยเข้าชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมมาแล้วจาก "The Curious Case of Benjamin Button" เมื่อปี 2008 ส่วนพี่น้อง "โจเอล โคเอน" (Joel Coen) และ "อีธาน โคเอน" (Ethan Coen) จาก "True Grit" นั้นเคยชนะรางวัลนี้มาแล้วจาก "No Country for Old Men" เมื่อปี 2007

  • ผู้เข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมของปีนี้ ที่เคยได้รับรางวัลสาขาเกี่ยวกับบทภาพยนตร์มาก่อน ได้แก่ "ไซมอน โบฟอย" (Simon Beaufoy) จาก "127 Hours" เคยชนะสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงจาก "Slumdog Millionaire" เมื่อปี 2008 "ไมเคิล อาร์ต" (Michael Arndt) จาก "Toy Story 3" เคยชนะสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมจาก "Little Miss Sunshine" เมื่อปี 2006 และพี่น้อง "โจเอล โคเอน" (Joel Coen) และ "อีธาน โคเอน" (Ethan Coen) จาก "True Grit" เคยชนะสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงจาก "No Country for Old Men" เมื่อปี 2007 และสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมจาก "Fargo" เมื่อปี 1996

  • ผู้เข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมของปีนี้ ที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาก่อนแต่ยังไม่เคยชนะรางวัล ได้แก่ "จอห์น แสสซีเตอร์" (John Lasseter) และ "แอนดรูว์ สแตนทัน" (Andrew Stanton) จาก "Toy Story 3" เคยเข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมจาก "Toy Story" เมื่อปี 1995 นอกจากนี้ แอนดรูว์ ยังเคยชิงสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมจาก "Finding Nemo" เมื่อปี 2003 และ "WALL-E" เมื่อปี 2008

  • ผู้เข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมของปีนี้ ที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาก่อนแต่ยังไม่เคยชนะรางวัล ได้แก่ "ไมก์ ลีห์" (Mike Leigh) จาก "Another Year" เคยชิงสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมจาก "Secrets & Lies" เมื่อปี 1996 "Topsy-Turvy" ปี 1999 "Vera Drake" ในปี 2004 กับ "Happy-Go-Lucky" ปี 2008 และ "คริสโตเฟอร์ โนแลน" (Christopher Nolan) จาก "Inception" เคยชิงสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมจาก "Memento" เมื่อปี 2001

  • ผู้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมล้วนมาจากประเทศที่เคยส่ง ภาพยนตร์เข้าชิงมาแล้ว "Biutiful" และ "In a Better World" เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 8 จากประเทศเม็กซิโกและเดนมาร์กตามลำดับ ส่วน "Dogtooth" "Incendies" และ "Outside the Law" นั้นเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 5 จากประเทศกรีซ แคนาดา และแอลจีเรียตามลำดับ

  • ปีนี้มีผู้ที่ได้เข้าชิงมากกว่า 1 สาขาอยู่หลายคน ได้แก่ "แอนน์ รอเซลลีนี" (Anne Rosellini) เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ดัดแปลงจาก "Winter's Bone" "คริสโตเฟอร์ โนแลน" เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ดั้งเดิมจาก "Inception" "แดนนี บอยล์" (Danny Boyle) เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ดัดแปลงจาก "127 Hours" ขณะที่ "โจเอล โคเอน" (Joel Coen) และ "อีธาน โคเอน" (Ethan Coen) เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจาก "True Grit" และ "ลี อุนคริช" (Lee Unkrich) เข้าชิงสาขาแอนิเมชันยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจาก "Toy Story 3"

  • เป็นครั้งแรกนับจากปี 1973 ที่พิธีกรได้เข้าชิงรางวัลด้านการแสดง โดย "เจมส์ ฟรังโก" (James Franco) ซึ่งรับหน้าที่เป็นพิธีกรคู่กับ "แอนน์ แฮตธาเวย์" (Anne Hathaway) ได้เข้าชิงรางวัลในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก "127 Hours"




Hilton Pattaya Toshiba Ploenchit Comtech Universal Music Canon Happy Home Entertainment Major Cineplex Yamaha Taro